กรุงเทพประกันภัยส่งต่อพลังใจให้คนรุ่นใหม่ ผนึกกำลังกรมสุขภาพจิต ต่อยอดแนวคิด “ยินดีที่ได้รู้ใจ” ชวน “เขื่อน-หมอฟรัง” ร่วมเสริมเกราะป้องกันใจ ณ มทร.พระนคร
ด้วยความมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมการดูแลสุขภาพจิตของคนไทย กรุงเทพประกันภัยร่วมกับกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข เดินหน้าจัดกิจกรรม “กรุงเทพประกันภัย ส่งเสริมสุขภาพใจ ใส่ใจสุขภาพจิต” ต่อเนื่องเป็น ปีที่ 2 ภายใต้แนวคิด “ยินดีที่ได้รู้ใจ” เพื่อรณรงค์ให้ความรู้ สร้างความตระหนัก และสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับการดูแลสุขภาวะทางใจให้แก่เยาวชน คนรุ่นใหม่ และประชาชนทั่วไป ผ่านกิจกรรมการสื่อสารที่เข้าถึงง่าย หลากหลาย และเหมาะสม ด้วยการจัดนิทรรศการและการพูดคุยเสวนาในสถาบันการศึกษาต่างๆ ล่าสุดบริษัทฯ ได้รับความร่วมมืออย่างดีจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร ศูนย์พณิชยการพระนคร โดยในครั้งนี้ได้รับเกียรติจาก ผศ.ดร.กษิดิ์เดช สุทธิวานิช รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร และนางสาวปวีณา จูชวน ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ร่วมเป็นประธานเปิดงาน ณ ห้องประชุมมงคลอาภา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร ศูนย์พณิชยการพระนคร เมื่อเร็วๆ นี้
โดยภายในงานมุ่งเน้นการสร้างพื้นที่แห่งการเรียนรู้ที่เข้าถึงง่ายและเป็นมิตร เปิดโอกาสให้นักศึกษาได้สำรวจจิตใจของตนเอง พร้อมเสริมความเข้าใจเกี่ยวกับการดูแลสุขภาวะทางใจ ผ่านนิทรรศการแบบ Interactive และสื่อวิดีโอกราฟิก ชุด “ยินดีที่ได้รู้ใจ” ที่ถ่ายทอดเรื่องราวผ่าน 4 คาแรกเตอร์เพื่อนซี้ทางใจ ได้แก่ น้องรู้ใจ น้องใส่ใจ น้องเปิดใจ และน้องเบาใจ นอกจากนี้ ยังมีไฮไลต์สำคัญคือการเสวนาในหัวข้อ “กว่าจะรู้ใจ” ที่เชิญชวนผู้เข้าร่วมงานร่วมรับฟังและแลกเปลี่ยนมุมมองจากประสบการณ์จริงกับวิทยากรผู้เชี่ยวชาญ ได้แก่ ดร.นพ.วรตม์ โชติพิทยสุนนท์ รองโฆษกกระทรวงสาธารณสุข “เขื่อน” ภัทรดนัย เสตสุวรรณ นักจิตบำบัดและเจ้าของแคมเปญ “จุดพักใจ” และ “หมอฟรัง” นรีกุล เกตุประภากร นักแสดงและอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง
ดร.นพ.วรตม์ โชติพิทยสุนนท์ รองโฆษกกระทรวงสาธารณสุข ได้ขยายความถึงการรู้เท่าทันจิตใจของตนเอง ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญของการดูแลสุขภาวะทางใจว่า “ความเศร้าเป็นธรรมชาติของมนุษย์ แต่สิ่งที่ต้องระวังคือเมื่อความเศร้านั้นเริ่มส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน เช่น เรียนไม่ได้ ทำงานไม่ไหว หรือเริ่มละเลยการดูแลสุขอนามัยส่วนตัว ซึ่งล้วนเป็นสัญญาณที่ควรรีบปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ นอกจากนี้ ในยุคที่เทคโนโลยีมีบทบาทอย่างมาก การใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) พูดคุยเพื่อคลายเหงาอาจช่วยได้บ้าง แต่ไม่ควรปล่อยให้มาแทนที่ความสัมพันธ์จริงกับคนรอบข้าง สิ่งสำคัญคือเราต้องหมั่นสำรวจอารมณ์ของตัวเองอย่างสม่ำเสมอ เพราะสุขภาพจิตที่ดีไม่ได้เกิดขึ้นเอง แต่เกิดจากการลงมือสร้างผ่านพฤติกรรมและกิจวัตรประจำวันที่ช่วยเสริมความเข้มแข็งทางใจ เช่น การพักผ่อนให้เพียงพอ การทำกิจกรรมที่ช่วยเติมพลังใจ รวมถึงการเปิดใจพูดคุยเมื่อรู้สึกไม่ไหว เพื่อให้เราสามารถรู้เท่าทันและจัดการกับความรู้สึกต่างๆ ได้อย่างเหมาะสม”
“เขื่อน” ภัทรดนัย เสตสุวรรณ นักจิตบำบัดและเจ้าของแคมเปญ “จุดพักใจ” เน้นย้ำถึงความสำคัญของการรักตนเองและการสร้างพื้นที่ปลอดภัยทางใจว่า “การรักตนเองเป็นจุดเริ่มต้นของการรักคนอื่นอย่างถูกวิธี เพราะเมื่อเราให้คุณค่ากับความรู้สึกและความต้องการของตนเองแล้ว เราจะสามารถเข้าใจผู้อื่นได้อย่างสมดุล หลายครั้งที่เรามุ่งให้ความสำคัญกับความรู้สึกของคนอื่นมากเกินไป พยายามเป็น People Pleaser จนหลงลืมความต้องการแท้จริงของตนเอง จึงอยากชวนให้ลองถามตนเองบ่อยๆ ว่า “วันนี้เราไหวไหม” และกล้าที่จะปฏิเสธสิ่งที่บั่นทอนใจ พร้อมสร้างขอบเขตที่ชัดเจนในการคบหาผู้คน ซึ่งไม่ใช่ความเห็นแก่ตัว แต่เป็นการเสริมเกราะทางใจให้สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข นอกจากนี้ ยังไม่ควรตัดสิน ความทุกข์ของใครว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย สิ่งที่ทำได้คือการอยู่เคียงข้าง ทำให้เขารู้ว่าแม้ในวันที่โลกใจร้าย เขาไม่ต้องเผชิญเรื่องร้ายเพียงลำพัง สิ่งเหล่านี้จะช่วยเสริมสร้างสุขภาพจิตที่แข็งแรงทั้งกับตนเองและผู้อื่น”
ปิดท้ายด้วยมุมมองของ “หมอฟรัง” นรีกุล เกตุประภากร ศิลปินและอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง ที่มาร่วมแชร์ประสบการณ์การก้าวข้ามความกดดันว่า “เคยเป็นคนที่แบกความคาดหวังไว้หนักอึ้ง จนวันหนึ่งค้นพบว่าเราไม่จำเป็นต้องสมบูรณ์แบบ ในสายตาใคร แค่มีความสุขในแบบที่เป็นเราก็เพียงพอแล้ว หันมาฟังเสียงหัวใจตนเองให้มากขึ้น และสิ่งสำคัญคืออย่าคาดหวังว่าความแหลกสลายหรือความเจ็บปวดทางใจจะหายไปชั่วข้ามคืน ขอให้เชื่อมั่นว่าการเยียวยาจิตใจนั้นต้องใช้เวลา ตราบใดที่กราฟชีวิตโดยรวมของเราดีขึ้น นั่นแปลว่าเรากำลังก้าวไปในทิศทางที่ถูกต้อง สำหรับใครที่กำลังเผชิญกับคอมเมนต์ด้านลบในโซเชียลมีเดีย ขอให้เลือกรับและปล่อยผ่านสิ่งที่ไม่จริงทิ้งไป อย่าเก็บมาทำร้ายจิตใจตนเอง เพราะเราห้ามไม่ให้ใครมาตัดสินเราไม่ได้ แต่เลือกได้ว่าจะไม่รับมาใส่ใจ เพียงให้คุณค่ากับความรู้สึกและความต้องการของตนเอง แล้วค่อยๆ ดูแลใจไปตามเวลา ก็จะสามารถก้าวผ่านความกดดันและสร้างความสุขในแบบของเราเองได้”
บริษัทฯ พร้อมเดินหน้าจัดกิจกรรม “กรุงเทพประกันภัย ส่งเสริมสุขภาพใจ ใส่ใจสุขภาพจิต” ภายใต้แนวคิด “ยินดีที่ได้รู้ใจ” อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความตระหนักรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพจิตในสถาบันการศึกษา และเสริมสร้างสุขภาวะทางใจที่ดีให้แก่เยาวชนคนรุ่นใหม่ โดยมุ่งหวังให้สังคมไทยเป็นสังคมที่พร้อมรับฟังและเข้าใจซึ่งกันและกัน สำหรับผู้ที่สนใจรับคำปรึกษาด้านสุขภาพจิต สามารถติดต่อได้ที่สายด่วนกรมสุขภาพจิต โทร. 1323 หรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิตที่สถานพยาบาลใกล้บ้าน เพื่อดูแลสุขภาวะทางใจได้อย่างเหมาะสม
0 Comments