Header Ads Widget

Header ADS

ความบิดเบี้ยวในการสอบ ขาดการกระจายอำนาจ คือปัญหา “กล่องดำทางการศึกษา” ของไทย

  

ความบิดเบี้ยวในการสอบ ขาดการกระจายอำนาจ คือปัญหา “กล่องดำทางการศึกษา” ของไทย


    เมื่อเร็วๆนี้มูลนิธิเอเชียได้ร่วมกับเหล่าพันธมิตรจัดงานเปิดตัวwww.Thailandleadership.orgซึ่งเป็นเว็บไซต์พัฒนาศักยภาพความเป็นผู้นำของ ผอ.โรงเรียน นำเสนอทักษะที่ทำให้ประสบความสำเร็จในรูปแบบของข่าวสาร งานวิจัย บทความ คลิปวิดิโอ พอดแคสต์ สารคดี ฯลฯ โดยนักวิชาการที่มีชื่อเสียง ภายในงานได้มีการจัดเสวนาในหัวข้อ แชร์กลยุทธ์จุดไอเดียผู้บริหารโดยรศ.ดร.เอกชัยกี่สุขพันธ์ในฐานะนักวิชาการและผู้ร่วมจัดทำเว็บไซต์ซึ่งได้มีการกล่าวถึงเรื่องความบิดเบี้ยวในระบบการสอบคัดเลือก และขาดการกระจายอำนาจคือปัญหาที่ถือเป็นกล่องดำทางการศึกษาของไทย ได้อย่างตรงประเด็นและน่าสนใจ

 

   รศ.ดร.เอกชัย กี่สุขพันธ์ อดีตประธานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(กพฐ.) และอดีตประธานคณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพคุรุสภาในฐานะผู้ร่วมจัดทเว็บไซต์ ได้กล่าวว่า“ปัญหาที่ถือเป็นกล่องดำทางการศึกษาของไทยคือ ประเทศไทยไม่เคยเตรียมผู้นำทางวิชาการแต่คัดเลือกเฉพาะผู้บริหารสถานศึกษาให้ความสำคัญกับการสอบคัดเลือกตามระเบียบราชการหรือการสอบในเชิงวิชาการ ซึ่งไม่ใช่วิชาการที่เป็นการทดสอบวัดสมรรถนะการบริหารในฐานะผู้นำวิชาการ (Academic Leadership) จึงส่งผลให้ได้ผู้บริหารการศึกษาที่เน้นทำข้อสอบเชิงวิชาการบริหารทั่วๆไปไม่ได้เน้นประสบการณ์ด้านการบริหารงานวิชาการ ถือเป็นการเข้าสู่ตำแหน่งผู้บริหารการศึกษาที่บิดเบี้ยวซึ่งบิดเบี้ยวตั้งแต่การเปิดโอกาสให้ครูที่มีคุณวุฒิวิทยฐานะระดับชำนาญการทุกระดับมีสิทธิ์สอบบางท่านสอบผ่านเป็นผู้บริหารโรงเรียนทั้งๆที่ไม่เคยผ่านงานหัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ หรือหัวหน้ากลุ่มวิชาบางคนไม่เคยเป็นรองผอ. แต่ไปสอบผอ.ซ้ำร้ายกว่านั้นเคยเป็นครูโรงเรียนมัธยมมาตลอดแล้วไปสอบเป็นผอ.โรงเรียนประถม แล้วคิดว่าวันหนึ่งจะมีโอกาสย้ายกลับไปเป็น  ผอ.โรงเรียนมัธยมเพราะฉะนั้นอย่าหวังกับผู้นำทางวิชาการ ที่ไม่ได้ถูกสร้าง หรือถูกเตรียมให้เป็น

 

   รศ.ดร.เอกชัย กล่าวต่ออีกว่า เมื่อผู้บริหารสถานศึกษาขาดประสบการณ์ทางวิชาการการไปเป็นผู้นำวิชาการไม่ใช่เรื่องง่ายในอนาคตจึงเห็นว่าควรต้องกำหนดคุณสมบัติของผู้ที่จะสอบเป็นผู้บริหารสถานศึกษา เช่น ต้องมีประสบการณ์ในการเป็นรองผอ. หรือเคยเป็นหัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ จึงจะมีสิทธิ์สอบ ซึ่งที่ผ่านมาเคยเสนอแนวคิดกำหนดคุณสมบัติผู้ที่จะสอบตำแหน่งผอ.ได้จะต้องอยู่ใตำแหน่งรอง ผอ.วิชาการ ไม่น้อยกว่า 2 ปี แต่แนวคิดไม่ได้ถูกนำไปปฏิบัติเนื่องจากเหตุผลที่ไม่ทราบได้ นอกจากนี้ยังมีปัญหาที่ถือเป็นกล่องดําทางการศึกษาของไทยอีกประการคือขาดการกระจายอำนาจจากส่วนกลางไปที่โรงเรียน ส่งผลให้ผู้บริหารไม่กล้าแสดงศักยภาพของตนเองได้อย่างเต็มที่ เพราะมีกฎระเบียบและ ข้อบังคับหลายอย่างจึงเห็นว่าส่วนกลางควรกระจายอำนาจการบริหารงานบุคคล รวมถึงงบประมาณเพื่อให้ผู้บริหารมีอิสระในการบริหารจัดการ และแสดงศักยภาพของตนเองให้ได้มากที่สุด  

การเติบโตและความก้าวหน้าในตำแหน่งผู้บริหารสถานศึกษาไม่ควรขึ้นอยู่กับจำนวนของนักเรียนหรือขนาดขอสถานศึกษาเป็นสำคัญแต่ควรพิจารณาคุณสมบัติของผู้บริหารให้เหมาะสมกับขนาดของโรงเรียนเป็นหลักหากผู้บริหารคนไหนเหมาะสมที่จะอยู่โรงเรียนขนาดเล็ก ก็ต้องบริหารโรงเรียนขนาดเล็ก ไม่จำเป็นต้องขยับไปที่โรงเรียนขนาดกลาง เพื่อให้ผู้บริหารคนใหม่ได้เข้ามาทำหน้าที่แทน ขณะเดียวกันหากผู้บริหารคนใหม่ที่สอบผ่านเข้ามาเหมาะสมที่จะบริหารโรงเรียนขนาดกลางก็ควรให้บริหารไม่ควรไปเริ่มต้นในโรงเรียนขนาดเล็กโดยบทบาทของผู้บริหารสถานศึกษาในอนาคตควรจะต้องมี 4 คุณสมบัติที่เป็นลักษณะสำคัญ คือ 1.Designer มีคุณสมบัติเป็นนักออกแบบ เพื่อที่จะออกแบบงานที่เกี่ยวข้องกับวิชาการได้ซึ่งควรมีประสบการณ์ทำงานด้านวิชาการมาก่อน2.Facilitatorเป็นผู้อำนวยความสะดวกให้ครูได้มีโอกาสมีส่วนร่วมที่จะพัฒนาวิชาการของสถานศึกษา 3.Supporterเป็นคนสนับสนุนครูและ 4.Evaluator เป็นผู้ประเมินผลการทำงาน

 

สำหรับเว็บไซต์ Thailand Leadership จัดทำขึ้นภายใต้วามร่วมมือของกระทรวงศึกษาธิการกรุงเทพมหานครสถานทูตออสเตรเลีย และเหล่าพันธมิตร โดยมีที่มาจากโครงการวิจัยเรื่องจากความท้าทายสู่คุณภาพการศึกษาของประเทศไทย : กฎระเบียบ การบริหารทรัพยากร และความเป็นผู้นำ ในปี พ.ศ.2561-2564 ของมูลนิธิเอเชียที่ได้มุ่งเน้นศึกษาโครงสร้างและบทบาทของ ตัวกลาง” ระหว่าง ผู้กำหนดนโยบายการศึกษาของชาติ” และ ผลผลิตทางการศึกษา” นั่นคือ ผู้อำนวยการสถานศึกษาในฐานะกล่องดำทางการศึกษาหรือแกนหลักผู้สื่อสารถ่ายทอดนโยบายบทสรุปที่ได้คือผู้อำนวยการโรงเรียนที่ประสบความสำเร็จในการพัฒนาคุณภาพการศึกษา จะต้องมีบทบาทเป็นผู้นำทางวิชาการ ซึ่งภายในเว็บไซต์จะประกอบด้วย 3 เมนูหลักคือ 1)ลงมือปฎิบัติ2)พัฒนาวิชาการ และ 3)สร้างสรรค์งานวิจัย โดย ผอ.โรงเรียน และผู้ที่สนใจ สามารถเข้าไปใช้บริการได้ฟรีโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ที่ www.Thailandleadership.org ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป


 

                                  *****************************************************

 

สอบถามรายละเอียดติดต่อ ฝ่ายประชาสัมพันธ์ 

โทรศัพท์ 062-7341267      

Post a Comment

0 Comments