ศิษย์เก่าพระนครจัดงานอาภากร '65 “เทิดพระบารมี 100 ปี หมอพร ในดวงใจ”

 ศิษย์เก่าพระนครจัดงานอาภากร '65 “เทิดพระบารมี 100 ปี หมอพร ในดวงใจ”

      สมาคมศิษย์เก่าพณิชยการพระนคร เตรียมจัดการแสดงแสงสีเสียงยิ่งใหญ่อลังการ ในวันที่ 19 ธ.ค. 2565 ภายใต้ชื่อ งานอาภากร '65 “เทิดพระบารมี ๑๐๐ ปี หมอพรในดวงใจ” โดยมี “ปราบ” ปราปต์ปฎล สุวรรณบาง นักแสดงชื่อดัง รับบท “หมอพร”

       นายจุลินทร์ รังษีสิงห์พิพัฒน์ นายกสมาคมศิษย์เก่าพณิชยการพระนคร เป็นประธานในงานแถลงข่าว งานอาภากร '65 “เทิดพระบารมี ๑๐๐ ปี หมอพรในดวงใจ” พร้อมด้วย นายสิทธิชัย เกื้อเกียรติงาม อุปนายกสมาคมฯ และประธานจัดงานอาภากร '65 และนายศุกรีย์ สุภาวรีกุล ที่ปรึกษาสมาคมศิษย์เก่าพณิชยการพระนคร ได้ร่วมกันแถลงข่าวความพร้อมในการจัดงานดังกล่าว ร่วมด้วย  “ปราบ” ปราปต์ปฎล สุวรรณบาง นักแสดงชื่อดัง ที่ โรงแรมอเล็กซานเดอร์ ถนนรามคำแหง เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2565

    ทาง โรงเรียนพณิชยการพระนคร ลงหลังปักฐานอย่างมั่นคง ที่ “วังนางเลิ้ง” ของพลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ หลังจากต้องซัดเซพเนจรย้ายสถานที่การเรียนการสอนไปในที่ต่างๆ ดั่งคำกล่าวที่ว่า “เดี๋ยวหลงเข้าวัด เดี๋ยวพลัดเข้าวัง” บัดนี้ สถาบันการศึกษาอันเป็นตำนานของเมืองไทย ในฐานะโรงเรียนพาณิชย์แห่งแรก มีอายุเก่าแก่กว่า 122 ปี และในโอกาสวันที่ 19 ธ.ค. 2565 ซึ่งเป็นวันคล้ายวันประสูติของ “เสด็จพ่อ” กรมหลวงชุมพรฯ ของชาว พ.พ. และเพื่อเป็นการรำลึกถึงพระกรุณาธิคุณและเป็นการเทิดพระเกียรติพระองค์ท่าน สมาคมศิษย์เก่าพณิชยการพระนครจึงเตรียมจัด “งานอาภากร” ในบรรยากาศสุดวิเศษ เนรมิตการแสดงแสงสีเสียงสุดยิ่งใหญ่ ขึ้นบริเวณ “เรือนหมอพร” โบราณสถานเก่าแก่ภายในวังนางเลิ้ง ในช่วงค่ำของวันที่ 19 ธ.ค. 2565 ที่เรือนหมอพร ศูนย์พณิชยการพระนคร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร

    นายจุลินทร์ รังษีสิงห์พิพัฒน์ นายกสมาคมศิษย์เก่าพณิชยการพระนคร กล่าวว่า “สมาคมฯ จัดงานอาภากร ขึ้นเป็นประจำทุกปีตั้งแต่อดีตจวบจนปัจจุบัน มีวัตถุประสงค์ให้บรรดาศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบันได้มารวมตัวกัน เพื่อกราบไหว้รำลึกถึงพระกรุณาธิคุณของเสด็จพ่อกรมหลวงชุมพรฯ ที่ท่านได้เมตตาให้วังที่ประทับมาเป็นสถานที่ตั้ง  พณิชยการพระนคร ซึ่งเป็นสถาบันที่หล่อหลอมให้บรรดาศิษย์ที่จบการศึกษาออกไป ได้ไปร่วมกันทำงานพัฒนาสังคมและประเทศชาติมาอย่างต่อเนื่องยาวนานจากรุ่นสู่รุ่น”

        “หลังจากในปี 2564 ในช่วงการแพร่ระบาดของ  COVID-19 (โควิด-19) ทางสมาคมฯ ได้จัดงานเทิดพระเกียรติในรูปแบบของคอนเทนต์ออนไลน์ และรายการทางเฟซบุ๊กไลฟ์ประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี บัดนี้เมื่อสถานการณ์คลี่คลาย จึงเห็นสมควรจะจัดงานยิ่งใหญ่อีกครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวาระครบรอบ 100 ปี ของการสิ้นพระชนม์ ในปี 2566 จึงทุ่มเทอย่างเต็มที่ นำมาสู่การจัดงานแสดงแสงสีเสียงเพื่อบอกเล่าประวัติของ หมอพร หรือช่วงหนึ่งของพระชนม์ชีพที่พระองค์ทรงศึกษาวิชาแพทย์แผนโบราณและออกรักษาผู้ยากไร้โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย”

         ด้าน นายสิทธิชัย เกื้อเกียรติงาม อุปนายกสมาคมฯ กล่าวว่า “ผมทำหน้าที่ประธานจัดงานอาภากรเป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน ซึ่งช่วงเวลาต่อจากนี้มีนัยสำคัญ นั่นก็คือในวันที่ 19 พ.ค. 2466 เป็นวันสิ้นพระชนม์ของเสด็จพ่อกรมหลวงชุมพรฯและในวันที่ 19 พ.ค. 2566 จะเป็นวันครบรอบการสิ้นพระชนม์ครบ 100 ปี จึงมีการเสนอแนวความคิดที่จะจัดงานอาภากร '65 ในรูปแบบ Light & Sound (ไลท์ แอนด์ ซาวน์) การแสดงแสงสีเสียงเพื่อนำเสนอพระประวัติของเสด็จพ่อกรมหลวงชุมพรฯ ในช่วงที่พระองค์พำนักอยู่ที่วังนางเลิ้ง (สถานที่ตั้ง พ.พ.ในปัจจุบัน) โดยจะมี “เรือนหมอพร” ซึ่งเป็นอนุสรณ์สุดท้ายของพระองค์ที่ยังหลงเหลืออยู่ในปัจจุบัน เป็นฉากไฮไลท์ของการแสดงดังกล่าว”

        “ทั้งนี้ ทางสมาคมฯ ได้ทาบทาม นายศุกรีย์ สุภาวรีกุล นายกสมาคมกีฬาเพาะกายและฟิตเนสแห่งประเทศไทย และรองผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์ทีสปอร์ต 7 ในฐานะศิษย์เก่า มาเป็นที่ปรึกษาในการดำเนินการดังกล่าว ทำการจัดหาทีมผู้กำกับ, นักแสดง ตลอดจนทีมงานบันทึกภาพ การแสดงดังกล่าวในวันที่ 19 ธ.ค. 2565 ไว้อย่างครบถ้วน”

    ทาง นายศุกรีย์ สุภาวรีกุล นายกสมาคมกีฬาเพาะกายและฟิตเนสแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า “ในการจัดงานครั้งนี้ ทางคณะดำเนินงานได้เชิญผู้กำกับและผู้จัดทำงานแสงสีเสียงระดับประเทศ มาร่วมเขียนบทและกำหนดเนื้อหาการแสดง โดยมีแหล่งข้อมูลที่สามารถอ้างอิงและเชื่อถือได้ อีกทั้งยังได้มีการคัดเลือกตัวนักแสดงที่จะเข้ามารับบทบาทอย่างละเอียดถี่ถ้วนให้ใกล้เคียงกับตัวจริงตามเนื้อเรื่องอีกด้วย นอกจากนี้ยังได้มีการจัดทำเพลงในรูปแบบ Symphony Orchestra (ซิมโฟนี ออร์เคสตร้า)ใช้เครื่องดนตรีกว่า 50 ชิ้น เพื่อมาใช้ประกอบการแสดงแสงสีเสียงครั้งนี้อย่างสุดอลังการ เพื่อให้สมกับเป็นงาน “เทิดพระบารมี ๑๐๐ ปี หมอพรในดวงใจ” ของพวกเราชาว พ.พ. สืบไปตราบนิรันดร์” 

        “ทั้งนี้ ในส่วนของบทบาทตัวละครหลักอย่าง “หมอพร” อันหมายถึง กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ เมื่อครั้งทรงออกรักษาชาวบ้านในพระนคร โดยไม่เปิดเผยพระองค์ และไม่คิดค่าใช้จ่ายใด ๆ นั้น ทางสมาคมศิษย์เก่าพณิชยการพระนคร ได้ทาบทาม “ปราบ” ปราปต์ปฎล สุวรรณบาง นักแสดงชื่อดัง ผู้เคยฝากผลงานแสดงเป็นสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ในละครบุพเพสันนิวาส มารับบทเป็น "หมอพร" ในครั้งนี้โดยไม่คิดค่าตัวอีกด้วย”

      “ปราบ” ปราปต์ปฎล สุวรรณบาง นักแสดงชื่อดัง เปิดเผยว่า “การรับบทหมอพรถือเป็นมงคลของชีวิตผม ทำให้ตอบรับทันทีโดยไม่ต้องลังเล หลังจากสมาคมศิษย์เก่าพณิชยการพระนครติดต่อมา เนื่องด้วยผมเป็นศิษย์เก่า ได้ร่ำเรียนวิชาจากสถาบันแห่งนี้ และมีความรักและศรัทธาในเสด็จพ่อกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ จะทุ่มเทกำลังความสามารถทำการแสดงอย่างถึงที่สุด เพื่อสร้างความสุขให้แก่พี่น้องชาว พ.พ. และเป็นการเทิดพระเกียรติพระองค์ท่านอย่างสูงสุด”

         ทั้งนี้ การแสดงแสงสีเสียงภายในงานอาภากร '65 “เทิดพระบารมี ๑๐๐ ปี หมอพรในดวงใจ” จะมีขึ้นในวันจันทร์ที่ 19 ธ.ค. 2565 เวลา 17.00 น. (เริ่มการแสดงจริง 19.19 น.) เปิดโอกาสให้ศิษย์เก่าและประชาชนทั่วไปที่มีความศรัทธา สามารถติดต่อให้การสนับสนุนและอุปถัมภ์การจัดงานได้ โดยติดต่อสอบถามได้โดยตรงที่  สมาคมศิษย์เก่าพณิชยการพระนคร หมายเลขโทรศัพท์ 06-5982-54860