Header Ads Widget

Header ADS

ม.เกษตรฯ เปิดเวทีถก 10 ปี นโยบายบุหรี่ไฟฟ้า เสนอรัฐควบคุมแทนแบนเด็ดขาด

 

วงสัมมนาวิชาการ ม.เกษตร เสนอคุมบุหรี่ไฟฟ้าถูกกฎหมาย

     คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จัดสัมมนาวิชาการประจำปี 2568 ในหัวข้อ "Entertainment Complex และ บุหรี่ไฟฟ้า : ทางหลายแพร่ง?" โดยมีเวทีอภิปรายพิเศษ “ย้อนมอง 10 ปี นโยบายบุหรี่ไฟฟ้าไทยกับแลไปข้างหน้า” เพื่อสะท้อนภาพรวมของนโยบายบุหรี่ไฟฟ้าในประเทศไทย และเสนอแนวทาง ควบคุมบุหรี่ไฟฟ้าให้ถูกกฎหมาย แทนการแบน

ตลาดบุหรี่ไฟฟ้าไทยโต 100% ต่อปี นักวิชาการชี้ควรควบคุมแทนแบน

     รศ.อุ่นกัง แซ่ลิ้ม อาจารย์ประจำภาควิชาเศรษฐศาสตร์ ม.เกษตรศาสตร์ เปิดเผยผลการวิจัยที่ทำมาตั้งแต่ปี 2557 ว่า มูลค่าตลาดบุหรี่ไฟฟ้าในปี 2560 อยู่ที่ประมาณ 2,000–3,000 ล้านบาท และมีอัตราการเติบโตถึง 100% ต่อปี สะท้อนถึงความนิยมและการเข้าถึงผลิตภัณฑ์บุหรี่ไฟฟ้าในวงกว้าง โดยเฉพาะในช่องทางออนไลน์

     รศ.อุ่นกังเสนอว่า ควรใช้แนวทางควบคุมการผลิตและจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า ไม่ใช่เปิดเสรี แต่ให้เป็น “ผลิตภัณฑ์ทางเลือก” สำหรับผู้ที่ต้องการเลิกบุหรี่มวน พร้อมระบุว่าหากมีการจัดเก็บภาษีอย่างเหมาะสม รายได้ภาษีจะอยู่ที่ 7–15% ของมูลค่าตลาด และจะช่วยป้องกันเด็กและเยาวชนจากการเข้าถึงผลิตภัณฑ์นี้ได้ดีขึ้น

"การแบนไม่ช่วยให้บุหรี่ไฟฟ้าหายไป แต่ผลักให้เข้าสู่ตลาดมืดแทน รัฐควรควบคุมผ่าน พ.ร.บ. ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ ปี 2560 แทนการปล่อยให้ปัญหาเรื้อรัง" – รศ.อุ่นกัง กล่าว


นักเคลื่อนไหวสิทธิผู้ใช้ชี้ 26 เสียง กมธ. สนับสนุนให้บุหรี่ไฟฟ้าถูกกฎหมาย

     นายมาริษ กรัณยวัฒน์ แอดมินเพจ “บุหรี่ไฟฟ้าคืออะไร” และหนึ่งในคณะกรรมาธิการศึกษาปัญหาบุหรี่ไฟฟ้า เผยว่า ขณะนี้รายงานการศึกษาเรื่องบุหรี่ไฟฟ้าได้รับการรับทราบโดยสภาผู้แทนราษฎรแล้วตั้งแต่วันที่ 21 มีนาคมที่ผ่านมา และอยู่ในขั้นตอนพิจารณาของคณะรัฐมนตรี

     โดยในคณะกรรมาธิการมีเสียงสนับสนุนถึง 26 เสียงจาก 35 ท่าน ให้ควบคุมบุหรี่ไฟฟ้าให้ถูกกฎหมาย ด้วยเหตุผลด้านสุขภาพ สังคม และการควบคุมภาษี เพื่อให้เกิดมาตรการคุ้มครองผู้บริโภคอย่างเป็นระบบ

“แม้ไม่สามารถควบคุมได้ 100% แต่การปล่อยให้บุหรี่ไฟฟ้าอยู่ใต้ดินนั้นยิ่งอันตรายกว่า” – นายมาริษ กล่าว


ทนายเกิดผล ชี้กฎหมายบุหรี่ไฟฟ้าปัจจุบันคลุมเครือ สร้างปัญหาคอร์รัปชัน

     ทนายเกิดผล แก้วเกิด ผู้ก่อตั้งมูลนิธิทนายเกิดผลเพื่อประชาชน ตั้งข้อสังเกตว่า กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการแบนบุหรี่ไฟฟ้าในประเทศไทยยังขาดความชัดเจน โดยอ้างอิง พ.ร.บ. ศุลกากร ที่ห้ามนำเข้า แต่กลับไม่มีข้อกฎหมายใดระบุชัดเจนว่า “ผู้ครอบครอง” หรือ “ผู้ใช้” ถือว่ามีความผิดทางอาญา

ผลที่เกิดขึ้นคือเจ้าหน้าที่ใช้การตีความว่า ผู้ครอบครองมีเจตนาซ่อนเร้นเพื่อจำหน่าย ซึ่งขัดต่อหลักนิติธรรมและนำไปสู่ปัญหาการเรียกรับสินบนจากผู้ใช้งาน

“โทษของการครอบครองบุหรี่ไฟฟ้าในปัจจุบันสูงเกินควร เทียบเท่ากับผู้กระทำผิดร้ายแรง ทั้งที่บางประเทศสามารถควบคุมได้โดยไม่ต้องแบน” – ทนายเกิดผล กล่าว


สรุป: เรียกร้องรัฐเร่งพิจารณาให้บุหรี่ไฟฟ้าเข้าสู่ระบบควบคุมที่ชัดเจน

     การสัมมนาดังกล่าวสะท้อนเสียงจากนักวิชาการ ภาคประชาชน และนักกฎหมายที่ตรงกันว่า นโยบายควบคุมบุหรี่ไฟฟ้าในไทยควรเปลี่ยนจาก “การแบน” มาเป็น “การควบคุมอย่างถูกกฎหมาย” เพื่อปกป้องเด็ก ลดการใช้งานผิดกฎหมาย และสร้างรายได้เข้าสู่รัฐอย่างโปร่งใส

     หากรัฐบาลสามารถเร่งพิจารณานโยบายบุหรี่ไฟฟ้าอย่างรอบด้าน ก็จะเป็นก้าวสำคัญในการจัดการกับปัญหานี้อย่างเป็นรูปธรรม และลดปัญหาความสับสนทางกฎหมายในสังคมไทยได้อย่างยั่งยืน

Post a Comment

0 Comments

News Update !!!

 ไอคอนสยาม ชวนชมนิทรรศการศิลปนิพนธ์ “กาลครั้งหนึ่ง” ถ่ายทอดเอกลักษณ์ของตัวตนผ่านงานศิลปะ วันนี้ – 24 พฤษภาคม 2568